หน้าเว็บ

วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การแต่งหน้ากรณีพิเศษ

การแต่งหน้าสำหรับตอนกลางวัน
  • ลงครีมรองพื้นชนิดเหลวที่เหมาะกับสภาพผิวเพียงบางๆ
  • ปกปิดริ้วรอยและรอยคล้ำใต้ดวงดาด้วครีมรอบพื้นรอบดวงตาและปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง และเกลี่ยให้เนียนเรียบ
  • ทาทับแป้งฝุ่นให้ทั่วใบหน้า
  • ใช้แปรงปัดขนคิ้ววาดให้ดูเป็นรูปคิ้วสวยงามแต่ไม่คมชัดจนเกินไป
  • ใช้ดินสอเขียนขอบตาวาดเส้นตามแนวขอบตาด้านบน
  • ทาตาด้วยที่ทางตาสีอ่อนหรือสีกลางจากขอบตาจนถึงคิ้ว
  • ทางสีเข้มเพื่อเพิ่มความเ่ด่นบนดวงตา เกลี่ยให้ทั่วแนวโหนกคิ้วเพื่อให้ดวงตาเป็นรูปอัลมอนด์ สามารถใช้สีเดียวกันนี้ทาไล้ไปตามแนวขอบตาด้านล่างได้
  • ปัดมาสคาร่าที่ขนตาด้านบนและด้านล่าง
  • ปัดที่ทาแก้มแบบฝุ่นบางๆ ที่ได้บริเวณโหนกแก้มไปจนถึงแนวเส้นผม
  • ใช้ดินสอเขียนขอบปากวาดรูปปากแล้วทาลิปสติกสีกลางหรือสีเข้มสำหรับวันทำงาน และสีอ่อนสำหรับวันพักผ่อน
 
 
การแต่งหน้าสำหรับตอนกลางคืน
  • ทาครีมรองพื้นให้หนากว่าตอนกลางวัน โดยใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ กับแป้งแข็ง ผสมรองพื้นเกลี่ยให้เนียนเรียบทั่วใบหน้า
  • ปกปิดริ้วรอยและรอยคล้ำใต้ดวงตาด้วยครีมรองพื้นรอบดวงตา และ ปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง
  • ปัดทับด้วยแป้งฝุ่นอีกครั้ง
  • ใช้ดินสอเขียนคิ้วสีเข้มกว่าสีคิ้วธรรมชาติ เขียนคิ้วให้ได้สัดส่วนและดูเป็นธรรมชาติ
  • ทาตาด้วยที่ทาตาสีอ่อนจากขอบตาจนถึงคิ้ว
  • ทาสีเข้มเป็นเส้นบางๆ บริเวณรอบพับบนเปลือกตา จะำทำให้ดวงตาดูโตขึ้นและโหนกคิ้วดูเด่นขึ้น
  • เกลี่ยด้วยที่ทาตาสีกลางเพื่อเน้นความงามและทำให้ดวงตาแลดูคมเข้มขึ้น
  • วาดไฟน์ไลเนอร์สีดำที่ขนตาด้านบน โดยเริ่มจากหัวตาเป็นเส้นบางๆ ก่อนแล้วเริ่มวามให้หนาขึ้นตรงบริเวณม่านตา จากนั้นลากเส้นต่อในแนวเฉียงขึ้นเหนือหางตา
  • ใช้ดินสอเขียนขอบตาวาดที่ขอบตาด้านล่าง
  • ไม่ควรเขียนขอบตาจนถึงหางตาเพราะจะทำให้ดวงตาเล็กลง
  • ปัดมาสคาร่า 2 ครั้งที่ขนตาบนและล่าง
  • ปัดแก้มด้วยที่ทาแก้มแบบฝุ่นสีกลางและสีเข้มบริเวณใต้โหนกแก้ม ปัดสีอ่อนกว่าทับสีเข้ม บริเวณกลางแก้ม และเกลี่ยขึ้นไปจนถึงบริเวณแนวเส้นผม
  • วาดรูปปากด้วยดินสอเขียนขอบปาก แล้วจึงทาลิปสติก
 
 
การแต่งหน้าสำหรับวัยผู้ใหญ่
  • ใช้ครีมรอบพื้นชนิดเหลวสำหรับการรอบพื้นแบบบาง และครีมรอมพื้นชนิดอัดแข็งสำหรับการรองพื้นแบบหนาเพื่อเพิ่มความชุ่นชื้น
  • ปกปิดรอบคล้ำใต้ดวงตาด้วยครีมรองพื้นรอบดวงตาและปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง
  • เนื่องจากสีผิวจะเปลี่ยนไปตาวัย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องตรวจดูสีของครีมรองพื้นด้วย โดยควรตรวจดูทุก 3-4 ปี เพื่อให้เข้ากับผิว
  • ตบท้ายด้วยการปัดแป้งฝุ่น หากทาแป้งหนาเกินไป ริ้วรอยต่างๆจะถูกเน้นให้เด่นชัดขึ้น
  • ตกแต่งรูปคิ้ว หากจะใช้ดินสอเขียนคิ้ว ควรหลีกเลี่ยงสีดำเพราะจะดูเข้มเกินไป
  • ให้ที่ทาตาสีอ่อนที่ดวงตาตั้งแต่ขอบตาจนจรดคิ้ว
  • เกลี่ยด้วยที่ทาตาสีกลางบริเวณรอยพับของเปลือกตา แล้วเกลี่ยไปจนถึงโหนกคิ้ว ไม่ควรใช้ที่ทาตาสีมุก เพราะสีมุกจะเน้นรอยย่นของผิวที่แห้งและรอยย่นตามวัยให้เด่นชัดขึ้น
  • แนะนำให้ใช้ที่ทาตาสีม่วง เทา หรือสีเขียว เกลี่ยบริเวณขอบตา ไม่ควรทาสีใดๆ บริเวณขอบตาด้านล่าง เพราะจะทำให้ดวงตาดำคล้ำ ดูเหมือนอิดโรยและอดนอนมากขึ้น
  • ใช้ดินสอเขียนขอบตาวาดตามแนวขอบตาและเกลี่ยเบาๆ โดยหลีกเลี่ยงสีเข้ม แนะนำให้ใช้สีม่วง น้ำเงิน หรือน้ำตาล
  • ปัดมาสคาร่า 2 ครั้ง เลือกสีน้ำตามเข้มหรือสีฟ้า เพราะสีดำจะเข้มเกินไป
  • เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหน้าก็จะหย่อนยานตามวัย การปัดที่ทาแก้มแบบแป้งฝุ่นด้วยวิธีที่ถูกต้อง จะช่วยพรางความหย่อนยานโดยช่วยยกพวงแก้มขึ้นได้
  • ปัดแก้มจากพวงแก้มจนถึงแนวเส้นผม โดยเน้นเฉพาะบริเวณกลางพวงแก้ม
  • เฉดสีที่ทาแก้มที่ควรใช้คือ สีชมพูอ่อนและสีพีช
  • เพื่อป้องกันไม่ให้ลิปสติกซึมเลอะขอบปาก ให้ทาครีมรองพื้นที่ริมฝีปากแล้วปัดทับด้วยแป้งฝุ่น
  • ใช้ดินสอเขียนขอบปากเพื่อเน้นริมฝีปาก แนะนำให้เลือกสีที่ใกล้เคียงกับสีลิปสติกที่คุณใช้อยู่
  • สำหรับลิปสติก แนะนำเฉดสีชมพูและแดงในเฉดสีกลางไปจนถึงสีสด
 
 
การแต่งหน้าสำหรับผู้สวมแว่นตา
  • แต่งหน้าให้ทั่วใบหน้าโดยไม่เว้นแม้แต่แก้มหรืิอริมฝีปาก
  • ตรวจดูสีของกรอบแว่นด้วยว่าเป็นโทนสีร้อนหรือสีเย็น เพื่อแต่งหน้าให้กลมกลืนไปกับขอบแว่น
  • คิ้วควรจะอยู่ในระดับเดียวกันกับกรอบแว่น หรือสูงกว่าเล็กน้อย
  • สีของที่ทาตาสามารถเลือกเฉดสีเข้มขึ้นเล็กน้อยได้ เพราะกระจกแว่นจะลดความเข้มของสีลง
  • สร้างความสมดุลระหว่างความเข้มของสีที่ทาตา เพื่อให้ดูกลมกลืนไปกันได้กับแว่นตา
  • ใช้ดินสอเขียนขอบตาพอประมาณ ควรจะใช้ชนิดสีมากกว่าสีดำหรือน้ำตาล
  • อย่าลืมปัดมาสคาร่าเป็นอันขาด
  • หากใส่แว่นกรอบใหญ่ ควรปัดแก้มบริเวณโหนกแก้มด้วย เพื่อที่จะได้มองเห็นผ่านเลนส์แว่นตา
  • หากกรอบแว่นสีเข้ม ควรจะทำให้เครื่องสำอางบนใบหน้ากลมกลืนกันด้วยการใช้ลิปสติกสีเข้ม
 
 
การแต่งหน้าสำหรับวัยรุ่น
  • เริ่มต้นด้วยการใช้แป้งแข็งผสมรองพื้นให้ทั่วใบหน้า ควรเลือกสีที่เข้ากับสีผิวเพื่อความเป็นธรรมชาติ
  • ปัดขนคิ้วให้เข้ารูป
  • ใช้ดินสอเขียนขอบตาวาดเส้นตามแนวขอบตาแล้วเกลี่ยเบาๆ แนะนำให้ใช้สีน้ำเงินหรือสีน้ำตาล
  • ปัดมาสคาร่าสีน้ำตาลเพียงครั้งเดียว
  • ปัดแก้มบางๆ ด้วยที่ทาแก้มเฉดสีชมพู หรือสีพีช
  • ทาปากด้วยเชียร์ กลอสส์ หรือลิปสติกสีธรรมชาติ
 
 
การแต่งหน้าสไตล์แอ็บแบ๊ว
  • ก่อนแต่งหน้าทามอยซ์เจอไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ใบหน้าทุกครั้ง แต่ต้องรอสัก 10 นาทีให้ครีมบำรุงซึมซาบเข้าสู่ผิวก่อนจะเริ่มแต่งหน้า
  • ทาแป้งฝุ่นอัดแข็งเนื้อบางเบาหรือ loose powder โดยเลือกเนื้อแป้งที่สีกลมกลืนกับผิว อย่าพยายามใช้โทนสีขาวที่อ่อนกว่าผิวจริงของตัวเองมาก เพราะจะทำให้หน้าวอกดูเฟค
  • ปัดแก้มด้วยบลัชออนสีชมพูหรือสีพีช โดยเน้นปัดที่โหนกแก้ม ไล้จากขอบหน้ามาถึงประมาณกลางลูกตาดำ แล้วปัดวนเป็นวงกลมๆ จะช่วยให้ใบหน้าดูมีเลือดฝาก สุขภาพดี มีเสน่ห์ น่าหอม
  • ทาอายชาโดว์สีน้ำตาลอ่อนเมทาลิค หรือสีเบจเป็นสีพื้นให้ทั่วเปลือกตา
  • เขียนขอบตาให้คมชัด โดยใช้ดินสอเขียนขอบตาสีน้ำตาลหรือดำ วาดจากหัวตาไปจนถึงหางตา แล้วตวัดปลายชี้ขึ้นเล็กน้อย 
  • ดัดขนตา ซึ่งต้องดัดตั้งแต่โคนขนตาขึ้นไปกลางขนตา และก็ดัดที่ปลายขนตารวม 3 steps แล้วปัดมาสคาร่าชนิดเพิ่มความหนาและความยาว 
  • ทาริมฝีปากด้วยลิปบาล์มเพิ่มความชุ่มชื้น แล้วทับด้วยลิปกลอส หรือลิปเจลสีชมพูอ่อนๆ 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน

คลังบทความของบล็อก